ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์


เคยใช้เวลาของทุกวันในการเดินเลียบเคียงเมียงมองพื้นที่ส่วนนี้ของบริเวณบ้าน และก็พูดถึงไปบ่อยครั้งรวมถึงในบทความที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากเป็นส่วนที่สร้างยุงเมื่อมีน้ำขัง เป็นพื้นที่รวมพลของเจ้าตัวยาวๆ สีดำสนิท จึงสร้างความระคายเคืองในสายตามาช้านานกับความไร้คุณค่าทั้งทางประโยชน์จากการใช้สอยและความสวยงามของภูมิทัศน์ มันจึงเป็นพื้นที่ที่บดบังอาณาบริเวณที่ควรปรากฎให้เห็น สามารถนำมาใช้สอยให้เกิดประโยชน์ในทางใดทางหนึ่ง

ไม่กี่วันที่ผ่านมาทางท้ายหมู่บ้านมีการขุดสระขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ตรงข้ามกับที่ตั้งของ อบต. แน่นอนล่ะว่าย่อมขุดฟรีโดยผู้ขุดก็จะได้รับสิทธิในการนำดินไปขายตามธรรมเนียม โอกาสเช่นนี้แหละที่รออยู่เพราะพื้นที่อยู่ใกล้เคียงการนำดินมาถมที่ย่อมอยู่ในราคาที่ยอมรับได้นั่นคือ 550 บาทต่อคันรถพร้อมกับนำรถแทรคเตอร์มาปรับระดับพื้นที่ให้เรียบร้อย ที่สำคัญก็คือคุณภาพของดินเหมาะสำหรับการถมที่คือไม่ใช่หน้าดินที่มีสภาพเหมือนฝุ่นในหน้าร้อนและเป็นขี้โคลนในหน้าฝน ดังนั้นการปรับสภาพภูมิทัศน์จึงเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน เป็นต้นมา


จากการประมาณการ(โดยอาศัยเงินในกระเป๋าเป็นตัวตั้ง) ได้ติดต่อแจ้งผู้รับเหมาไว้ 20 รถและเมื่อจบวันในตอนเย็นปรากฎว่าเพิ่งเดินหน้าไปไม่ถึงครึ่งทางก็หมดไปแล้ว 14 รถ จึงต้องแจ้งเพิ่มไปเป็น 30 รถซึ่งเมื่อมาต่อในวันที่ 4 เมษายนถึงช่วงบ่ายก็เพิ่มเป็น 40 รถ แน่นอนว่าต้องพอเท่านี้เพราะหมดงบประมาณเป็นการชั่วคราว แต่ก็สามารถเกลี่ยดินลงไปจนเต็มพื้นที่ในที่สุด แม้ว่าในช่วงท้ายๆ จะถมไว้หนาไม่ถึง 50 เซนติเมตร ผิดกับช่วงกลางๆ ที่ถมไว้สูงประมาณ 2 เมตร สรุปภาพโดยรวมก็คือ เสร็จภารกิจสามารถปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้ราบโล่งสะอาดตา ในสภาพเอียงลาดออกไปทางทิศตะวันตก กลมกลืนกับสภาพที่ดินที่เป็นอยู่เดิมทำให้ดูเหมือนพื้นที่จะกว้างขึ้นกว่าเดิมซักสองเท่า


ตั้งใจว่าจะนำไม้ยืนต้นมาลงไว้เป็นแนวหลักก่อน รอให้ดินยุบตัวลงซักปีสองปี แล้วค่อยถมเพิ่มอีกซัก 20 รถเพื่อปรับระดับพื้นที่ให้อยู่ในแนวปกติก่อนที่จะดำเนินการต่อไป เพราะด้านทิศเหนือยังมีพื้นที่รอคิวปรับสภาพอีกแปลงหนึ่ง พื้นที่ประมาณ 1 งานเช่นกัน ก็คงจะต้องปลุกปล้ำอยู่กับพื้นที่ในบ้านของเราไปเรื่อยๆ อย่างนี้แหละ

ไอ้เรื่องไขว่คว้า แสวงหา ยศฐาบรรดาศักดิ์ ทรัพย์สินเงินทอง นั่นน่ะเป็นเรื่องของพวกขี้ข้าเค้า พวกนี้จะมีความดีเด่นตรงที่พร้อมจะออกมาเห่าหอน ปกป้องเจ้านายอย่างไม่ลืมหูลืมตา เพียงเพื่อให้เจ้านายพอใจยื่นตีนมาลูบหัวเป็นการชม แล้วก็ถ่มถุยเศษอาหารลงมาเป็นการให้กำลังใจในการออกมารับใช้ พวกขี้ข้านี่จะเป็นพวกที่มีการศึกษาผ่านการฝึกอบรมมาดี แต่ไม่มีมันสมองเพราะจะคอยทำตามคำสั่งเท่านั้น ไม่ต้องคิด

ส่วนคำว่า "ไพร่" ที่พวกขี้ข้าชอบนำมากล่าวอ้างถึงประชาชนนั้น ก็เพื่อเอาตัวเองเข้ามาแอบอิงรวมกลุ่มอยู่ด้วยเป็นเกราะกำบังตัวเท่านั้นเอง เพราะไอ้ตัวหัวหน้าไพร่ต่างหากล่ะที่เป็นตัวจริงในการวางรากฐานของการสร้างชาติที่ปราศจากคนจน (เนื่องจากพากันฆ่าตัวตายหนีหนี้สินไปหมดประเทศ) ทั้งประเทศมีแต่คนร่ำรวย โอ้...ความฝันอันแสนบรรเจิดที่ยังอุตส่าห์มีคนโง่พากันเชื่อ โดยไม่แอบมองๆ บรรดาขี้ข้าดูบ้างว่าแต่ละคนพากันร่ำรวยทั้งเงินทอง ตำแหน่งหน้าที่ ขณะที่บรรดาไพร่ที่ถูกพาไปร่วมสร้างสะพานอำนาจพากันเดินทางกลับสู่ถิ่นฐานในสภาพเดิมหรือบางคนบอบช้ำกว่าเดิม พร้อมกับสัญญาลมๆ แล้งๆ ขณะที่หัวหน้าไพร่ลอบเข้าจับเข่าคุยกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อหาข้อยุติโดยไม่ใยดีต่อน้ำลายของตัวเองที่พ่นไว้จนเปรอะเลอะไปทั้งแผ่นดิน

อ้าว ... ถมที่เสร็จแล้วไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องของชาวบ้านเค้าอีกล่ะ ไม่เอาล่ะไปขุดดินต่อดีกว่า

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บริการสาธารณะ

บัวสี่เหล่า

ลมหายใจ