ปล่อยวาง


หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาบริเวณนี้จะรกครึ้มเพราะกิ่งก้านของต้นเฟื่องฟ้าเหล่านี้ไม่ได้รับการดูแลตบแต่งทำให้เลื้อยไหลกันไปตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นซ้ายขวาหน้าหลัง ฃึ้นฟ้า ลงดิน มองดูแล้วเป็นที่หงุดหงิดหัวใจ แต่เมื่อเข้ามาทำการจัดระเบียบตัดเล็มกิ่งก้านที่แตกแถวออกไปบ้าง ส่วนที่ก้มหน้าก้มตาจะมุดลงดินท่าเดียวก็ใช้ไม้ค้ำยันให้เงยหน้าขึ้นไปสูดอากาศเสียบ้าง กิ่งก้านไหนแก่กล้าเกินจะดัดแต่งก็ต้องจำใจตัดมันทิ้งออกไปเสียเลย ทั้งนี้ก็เพื่อภาพลักษณ์ในส่วนรวม

หลังจากใช้เวลาหลายปีพื้นที่ส่วนนี้ก็กลายเป็นที่ร่มสำหรับการเพาะพันธุ์ไม้หน่ออ่อนๆ ให้เติบใหญ่ขึ้นมาอย่างปลอดภัยมีรูปทรงสวยงามตามที่เราต้องการ (ซึ่งก็เป็นภายหลังจากการรบราฆ่าฟันกับฝูงไก่แม่ลูกอ่อนข้างบ้านอยู่นานวัน) ในภาพจะมองเห็นต้นเศรษฐ๊วิลสันสองต้นที่ครั้งหนึ่งนั้นทำท่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่เก็บก้อนกระเปาะใต้ดินขนาดเม็ดพุทรามานั่งประคบประหงมจนกระทั่งหน่องอกออกมาแล้วแตกกอจนสามารถแยกออกเป็นสองต้น และกำลังรอการแตกหน่ออีกซักรอบในวันหนึ่งข้างหน้า

จำได้ว่าเคยลงรูปของต้นเฟื่องฟ้าหน้าบ้านที่ทำการดูแลบังคับกดขี่ให้มันเติบโตอยู่ในถังซีเมนต์กลมแล้วยังใช้ลวดใฃ้เฃือกมัดรวบโคนต้นเอาไว้เสียอีก ซึ่งบัดนี้มันก็เห็นผลในรูปแบบที่เราต้องการ คือรูปทรงที่สูงขึ้นไปจนพ้นศีรษะแล้วจึงค่อยแผ่กระจายออกไปรอบด้านในลักษณะของร่มเงาที่พึงประสงค์ และไม่สร้างความเกะกะให้กับพื้นที่เหมือนต้นเก่าที่ปลุกปล้ำกันมา

ใครหลายคนที่พอจะมีอายุเกินครึ่งศตวรรษก็คงจะพอจำได้ถึงรสชาติของไม้เรียวที่อยู่ในมือของคุณครู โดยเฉพาะตัวผมเองที่ต้องโยกย้ายเปลี่ยนโรงเรียนมามากและก็เป็นโรงเรียนในชยบทเสียด้วย ดังนั้นจึงมีความหลากหลายในรสชาติของไม้เรียว ที่มีตั้งแต่ไม้ใผ่เหลากลมๆ ไม้ไผ่ชนิดสี่เหลี่ยมติดผิวไม้ไว้ด้วยโดยไม่มีการเหลาลบเหลี่ยม ขนาดตั้งแต่นิ้วก้อยไปจนถึงขนาดหน้ากว้าง 3 นิ้ว ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องมือทัณฑกรรมรุ่นแรกที่รู้จักมา ครูบางคนก็ถนัดการต่อสู้ด้วยมือเปล่าไม่ชอบใช้เครื่องทุ่นแรง อาจจะตบบ้องหู ตบทายทอย ตบหน้า หยิก ข่วน ทุบหลัง แต่ยังไม่เคยได้ข่าวว่ามีการกัด ครูบาอาจารย์หลายท่านอาจจะปฏิเสธว่าไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิทธิของท่านเพราะโบราณว่าไว้ สิ่งที่ไม่เคยเห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีอยู่จริง และพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในชนบทมากกว่าในเมืองจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

การดัดแต่งต้นเฟื่องฟ้าจึงต้องอาศัยเวลามาเป็นตัวช่วย เหมือนกับการเลี้ยงดูบุตรหลานที่ต้องอาศัยโรงเรียนมาเป็นตัวเสริมจากความช่วยเหลือของครูบาอาจารยฺด้วยการอบรมสั่งสอนแลัลงโทษเมื่อกระทำความผิด

ไม้เรียวเหล่านั้นไม่ได้เป้นเพียงเครื่องมือลงโทษเท่านั้น แต่เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงรสชาติความเจ็บปวดที่ได้รับและทำให้ต้องย้อนระลึกถึง เหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นว่าเกิดจากอะไร

อาจจะเกิดจากการไปหยิบเอาสิ่งของของเพื่อนมาด้วยความอยากได้ในของที่เป็นของผู้อื่น
อาจจะเกิดจากการใช้วาจาก้าวร้าวรุนแรงกับผู้อื่นเพราะความอยากอวดอำนาจ
อาจจะเกิดจากการใช้กำลังประทุษร้ายร่างกายผู้ที่อ่อนแอกว่า เนื่องจากเป็นสันดานที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
อาจจะเกิดมาจากการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นในการทำงานร่วมกัน
อาจจะเกิดจากความเกียจคร้านไม่ยอมทำการบ้าน เพราะเห็นแก่ความสนุกสนานในการเล่น
ฯลฯ

คุณล่ะ ลืมรสชาติไม้เรียวไปหมดหรือยัง ?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า