ปกครองท้องถิ่น


คอมเครื่องนี้จำได้เลือนลางว่าน่าจะซื้อมาเมื่อต้นปี 54 นี่เอง เอ..หรือต้นปี 53 ไม่แน่ใจ ยอมรับว่าสติชักจะไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าเดิมเสียแล้ว คงจะมาจากปัจจัยหลายๆ ประการ ที่อยากจะพูดถึงก็คือเมื่อครั้งที่ซื้อคอมพิวเตอร์มาเป็นสมบัติส่วนตัวครั้งแรกประมาณปี 2536 ซีพียู AMD K6 350MB iราคาซื้อตอนนั้นก็ 24,000 บาท(ถ้าเป็นปัจจุบันกับซีพียูความเร็วขนาดนี้ขายซัก 500 คงไม่มีใครซื้อ) ไม่เคยศึกษาหาความรู้ถึงชิ้นส่วนใส้ในของมันเลย สรุปก็คือใช้งานเป็นอย่างเดียว(แบบงูๆ ปลาๆ) พอมีอาการไม่ตอบสนองก็แบกไปหาช่างแล้วก็ถูกหลอกรับประทานเงินไปทีละร้อยสองร้อย และบางครั้งก็เล่นไปเป็นหลักพัน นานวันเข้าบารมีเริ่มแก่กล้าจากการพาไปหาช่างเปลี่ยนมาเป็นเริ่มลุยเข้ารักษาอาการต่างๆ ด้วยตัวเอง นอกเสียจากควันท่วมเครื่องนั่นแหละถึงจะยอมแพ้ มาถึงวันนี้ตั้งแต่ซื้อเครื่องใหม่(เครื่องที่ 3)ยังไม่เคยพาไปหาช่างเลยแม้แต่ครั้งเดียวแม้จะดับสนิทไปหลายรอบ ด้วยอาการอันเนื่องมาจากหัวสัมผัสทองแดงของชิ้นส่วนหลายชิ้นสกปรก ไวรัสถล่มฮาร์ดดิสก์จนถึงขั้นต้องล้างเครื่องลงโปรแกรมใหม่มากกว่า 10 ครั้งแล้ว แล้วก็อาการหลวมคลอนของสายต่อต่างๆ ที่จุกจิกกวนใจจนถึงขั้นต้องใช้ระบบผูกมัดแบบโบราณเข้าช่วย ทั้งนี้และทั้งนั้น ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด

จากย่อหน้าแรกไม่เกี่ยวกับชื่อเรื่องสักนิด แต่ประโยคสุดท้ายเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้วเพราะเมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 3 ท่านมีรถแห่โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านหน้าบ้านทุกๆ วันบางวันก็สองสามรอบ นานนับเดือน รวมถึงการเดินเท้าเข้าขอคะแนนเสียงด้วยตนเองของบรรดาผู้สมัครเป็น นายกฯ ได้เห็นความก้าวหน้าของบรรดานักการเมืองท้องถิ่นที่เลื่อนมาจากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. โดยอาศัยบารมีที่สั่งสมมายาวนานบวกกับความห้าวหาญตามประสาคนในพื้นที่และบางท่านก็บวกด้วยความมีอันจะกินอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ไม่อยากจะพูดถึงเพราะเป็นเรื่องโบราณที่ยึดมั่นกันนานมาแต่อดีตกาล ว่าไม่แน่จริงอย่าเสี่ยง

เรื่องที่อยากจะพูดถึงก็คือ บรรดาผู้สมัครจะนำเสนอรายชื่อของ รองนายกฯ อีก 2 ท่านมาพร้อมกันเบ็ดเสร็จ เปิดช่องทางให้ชาวบ้านได้พิจารณากันอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งแน่นอนว่าท่านเหล่านั้นก็ต้องอุดมสมบูรณ์ไปด้วยประสบการณ์มากล้น บางท่านมีดีกรีเป็นถึงอดีตนายก อบต.มาก่อน และที่สำคัญ หลายท่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขา รัฐประศาสนศาสตร์ มีอยู่ 1 ท่านที่สำเร็จชั้นปริญญาโท ในสาขานี้ บอกตรงๆ เลยว่ามาตรฐานทางคุณวุฒิเหนือกว่า ผู้สมัคร ส.ส.บางท่านเสียอีก(ถ้ายกเว้น ส.ส.รุ่นเก่าบางท่านที่ได้ปริญญามาโดยไม่ตั้งใจ) ส่วนทางด้านประสบการณ์เกี่ยวกับท้องถิ่นแทบไม่ต้องพูดถึงเนื่องจากทุกคนมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่นี้(ก็ต้องยกเว้นไว้บางคนอีกแล้ว) เป็นประสบการณ์ตรง(ไม่ใช่เป็น ส.ส.จังหวัดหนึ่ง แค่ไปทำมาหากินอีกจังหวัดหนึ่ง แล้วก็ไปปลูกบ้านให้ครอบครัวอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง จนจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็น ส.ส.จังหวัดไหน)

การเมืองท้องถิ่นเป็นต้นทางของประชาชนในการเรียนรู้กระบวนการของระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง ว่าอำนาจทั้งหมดที่ผู้นำท้องถิ่นมีนั้นมาจากการเลือกสรรของตัวเรา การพัฒนาท้องถิ่นที่เกิดขึ้นก็เพราะเป็นความเห็นของคนส่วนมากในตำบล สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ประชาชนในตำบลนั้นจะเป็นผู็กำหนด ไม่ใช่นักการเมืองมีอำนาจทำในทุกเรื่อง เพราะทุกเรื่องที่ทำจะต้องเป็นผลประโยชน์ของคนส่วนรวม

แต่...ต้องไม่เดินตามรอยการเมืองในระดับประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหาเสียง การวางตัว การปฏิบัติตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้(ในกรอบที่กฎหมายกำหนด)
และการเมืองท้องถิ่นสมควรที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักการเมืองระดับประเทศ

ไม่ใช่ยึดหลักการ ... งบประมาณน้อยก็กินแต่น้อย
บ้านเมืองคงได้ล่มสลายเร็วขึ้นเป็นแน่แท้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า