หญ้ารกบ้านคนรกสังคม
ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเคยเอาภาพของมะขามยักษ์มาลงไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ช่วงนี้แก่จัดเกือบหมดทั้งต้น แม่บ้านจึงทำการเก็บมาแกะเปลือกเพื่อยืดอายุการใช้งานตามธรรมเนียมปฏิบัติของบรรพบุรุษ ลองวัดขนาดดูในบางฝักมีความยาวสูงสุดก่อนแกะเปลือกนอกถึง 22 เซนติเมตร ซึ่งเป็นฝักที่เห็นว่ายาวที่สุดนะ แต่อาจจะมียาวกว่านี้ก็เป็นได้ซึ่งมองไม่เห็น เนื่องจากมีจำนวนมากจนกิ่งก้านที่ตัดตกแต่งไว้สูงเหนือหัวห้อยย้อยลงมาจนเกือบถึงพื้น ต้องออกแรงตัดใหม่อีกครั้งจนเหงื่อตกหลังการเก็บผลผลิตไปได้บางส่วน เหตุผลก็เพราะจะได้อาศัยพื้นที่ไว้พักผ่อนนอนเล่นในตอนกลางวันเวลาไปทำงานจิปาถะบริเวณนั้น
สภาพของพื้นที่กว่า 3 ไร่กับการดูแลเพียงคนเดียวเมื่อมีอายุมากแล้วประกอบกับสุขภาพที่ต้องอาศัยยาเม็ดเป็นกำๆ ทั้งเช้าทั้งเย็นมันค่อนข้างจะหนักหนาเอาการ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้ ช้าง เสือ เก้ง กวาง เข้ามาอาศัยหลบซ่อนยึดพื้นที่ไป แต่ยังไม่สามารถไล่งูออกไปได้หมดเพราะวันดีคืนดียังคงเห็นงูแมวเซายุรยาตรผ่านไปมาบริเวณหลังบ้านซึ่บางส่วนยังคงรกรุงรังและอาศัยเป็นที่ทิ้งขยะ ใบไม้ ใบหญ้า ลงไปก่อนเพื่อรอเวลา(และเงิน)ในการเอาดินมาลงกลบฝังขยายพื้นที่ในการเพาะปลูก เฉพาะในพื้นที่ส่วนด้านทิศตะวันตกของบ้านในรูปข้างล่างนี้ก็มีขนาดกว้างประมาณหนึ่งงาน อาศัยการทิ้งขยะประเภทใบไม้ กิ่งไม้ ทับถมเน่าเปื่อยเป็นปุ๋ยธรรมชาติมาหลายปีคงจะทำให้ทุ่นดินที่จะถมไปได้อีกไม่น้อยทีเดียว เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับตัวบ้านเกือบเมตร
ธรรมชาติกับงานนอกบ้านช่วยสร้างความสุขสงบให้กับจิตใจได้อย่างมากมาย พร้อมกับการสร้างเสริมสุขภาพให้สดชื่นด้วยการออกกำลังกายจากการทำงานอย่างเหมาะสมกับสภาพสังขาร ไม่หักโหม(แต่ตอนนี้ก็ไหล่เดี้ยงไปแล้วเพราะเผลอไปแบกขอนไม้ต้นใหญ่เข้า ลืมไป ! นึกว่าตัวเองอายุ 20-30) แต่ทุกครั้งก็จะได้แผลเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวกลับขึ้นบ้านไปทุกวัน อย่างเมื่อวานนี้ก็เป็นคู่แค้นเก่า คือ ผึ้งที่ทำรังอยู่บนซุ้มเฟื่องฟ้า เรามองเห็นรังแล้วว่าอยู่ด้านหน้าก็เลยเลี่ยงมาทำค้างค้ำยันกิ่งก้านที่ด้านหลัง ปรากฎว่าโดนต่อยเข้าเปลือกตาทีเดียว 3 ตัวเลยต้องวิ่งอ้าวออกไปตั้งหลักห่างไป 20 เมตร เพิ่งมาเห็นทีหลังว่ามีรังใหญ่อีกรังบังใบไม้อยู่ด้านหลังที่กำลังใช้ไม้ค้ำอยู่ ใหญ่กว่าข้างหน้าเสียอีก ผลก็คือ เช้าขึ้นมาตาบวมปิดไปข้างหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นขาประจำกันสำหรับสัตว์ประเภทนี้ เพราะเคยโดนแตนตัวโตต่อยท้ายทอยจนหัวทิ่ม โดนผึ้งต่อยจนแขนบวม โดนแตนต่อยหลังมือจนมือบวมเป็นใบพาย ซึ่งไม่ว่ากันอยู่แล้ว ทีใครทีมัน นี่ถ้ามันต่อยเราอีกครั้งกำลังคิดจะไปแจ้งความที่โรงพักเหมือนกัน ยอมมามากแล้ว
พอเหนื่อยล้าจากงานนอกบ้านก็ได้เวลากลับมานั่งพักผ่อนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงขนาด 7 เม็กไว้ทั้งสองเครื่อง ดูหนังใหม่ๆ ดูข่าวสดๆ ดูกีฬาสดๆ จากต่างประเทศทั่วโลก(แบบเต็มเรื่องด้วยความชัดเจนระดับ HD) ฟังเพลงใหม่เพลงเก่านับล้านเพลงจากทุกมุมโลก ดูข่าวจาก น.ส.พ. จากนิตยสารทุกฉบับในเมืองไทย ไล่ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองแบบเจาะลึกจากแหล่งข้อมูลมากมายมหาศาลทุกซอกทุกมุม เปิดเช็คอีเมล์ที่มีมาหา เปิดเข้าไปดูข้อมูลข่าวสารในเว็บรุ่น การเขียนบล็อกส่วนตัวและของหน่วยงานที่รับเป็นภาระไว้อีก 23 บล็อก และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในการออกแบบจัดทำ เว็บไซท์ การทุ่มเทศึกษาถึงรูปแบบการเขียนโค๊ดต่างๆ ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคนิค วิธีการใหม่ๆ ทางเทคโนโลยี พร้อมกับหาทางดัดแปลงมาประยุกต์ใช้กับงานของเรา เป็นการใช้คอมพิวเตอร์อย่างสุดคุ้มกับค่าเชื่อมต่อ 738 บาทต่อเดือน(รวมค่าโทรศัพท์กับภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วนะ)
คิดดูแล้วก็สงสารพ่อแม่ที่รักลูกเหลือเกิน อุตส่าห์ซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ให้ลูกหลาน วันๆ ก็เอาแต่เล่นเกมส์ เล่นเฟซบุ๊ค เล่น MSN ดู Youtube(หรือบางทีก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโออวดหน้าตาตัวเองไปลง) แต่พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่รู้จักแนะนำให้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า อย่างมีสาระ เพราะจะรอให้ลูกรู้เองตามธรรมชาติของวัยก็เป็นไปได้ในบางคนเท่านั้น ปัญหาอาจจะมาจาก พ่อแม่เองก็ไม่รู้ว่าจะไปสอนอะไรให้ลูก แม้แต่การคิด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น