ธรรมชาติกับชีวิต


นกเขาตัวนี้เห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ยืนยันว่าจำได้แม่นยำเพราะเมื่อครั้งมันยังเป็นเด็กน่ะ มันเติบโตอยู่บนต้นมะพร้าวหน้าบ้านซึ่งสูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตรวันหนึ่งทางมะพร้าวที่พ่อแม่ของมันทำรังไว้เริ่มเหี่ยวเฉาหมดอายุหลุดร่วงลงมา รังของมันที่อยู่บริเวณกาบด้านโคนก็หลุดร่วงตามลงมาโดยที่มีตัวมันร่วงตามลงมาด้วย โชคดีที่ด้านล่างเป็นป่าหญ้าสูงเกือบถึงเอว ทำให้รังของมันตกลงไม่ถึงพื้นดิน ตัวของมันในรังก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บ นับว่าป่าหญ้าที่ขี้เกียจถากถางได้สร้างประโยชน์ไว้เหมือนกัน

วันนั้นกำลังเดินเล่นอยู่จึงเข้าไปลากทางมะพร้าวนั้นไปทิ้งด้านหลังบ้าน พอกลับมาอีกครั้งเพือเก็บเศษเล็กเศษน้อยก็เห็นนกเขาสองตัวกำลังกระโดดโลดแล่นไปมาอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับส่งเสียงเซ็งแซ่ พอเดินเข้าใกล้มันก็บินโฉบผ่านหัวสลับกันไปมา ทำให้เกิดความสงสัยแล้วก็มองไปเห็นรังของมันที่ตกค้างอยู่บริเวณกอหญ้ามีลูกนกตัวเล็กๆ ขนอ่อนๆ กำลังชูคอร้องอยู่ จึงรู้เหตุผลของนกสองตัวนั้นว่าคงเป็นนกเขาสองผัวเมียที่มาคอยปกป้องลูกของมัน ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น คงไม่นานก็จะมีหมาหรือแมวมาคาบไปรับประทานเป็นแน่เพราะพื้นที่นั้นเป็นทางผ่านของสารพัดสัตว์(แม้จะเป็นเขตพื้นที่บ้านของเราก็ตาม)

ตัดสินใจนำลูกนกตัวนั้นมาเข้าบ้านหากล่องมาใส่พร้อมกับเศษผ้าเช็ดตัวหนาๆ พอตื่นเช้ามันก็ตื่นก่อนเราเสียอีก ส่งเสียงร้องก้องอยู่ในบ้านจนต้องเปิดประตูออกไปรับแสงแดดเอากล่องออกไปวางที่ระเบียงหน้าบ้านแล้วก็คอยเฝ้าดูห่างๆ เพราะกลัวแมวขโมยจะมาคาบไปเป็นอาหารเช้าซะ เสียงลูกนกที่ร้องอยู่เป็นระยะๆ เรียกพ่อแม่ของมันให้บินวนเข้ามาใกล้ๆ จนในที่สุดก็มาเกาะอยู่ที่ขอบรัง ตัวแม่บินหายเงียบไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับอาหารป้อนลูกที่ดิ้นกระแด่วๆ โก่งคอรับ ซึ่งตลอดเวลานั้นตัวพ่อจะเกาะรออยู่ที่ระเบียงเหนือขอบลังเล็กน้อย เฝ้ามองลูกมันตลอดเวลา จนถึงช่วงสายมันสองตัวถึงบินหายไป แล้วก็กลับมาอีกครั้งทุกๆ ชั่วโมง

พอใกล้ค่ำเราก็อุ้มกล่องกลับเข้าบ้าน พอเช้าก็อุ้มออกไปให้แม่มันป้อนอาหาร พอเข้าวันที่สามตื่นเช้าขึ้นมาลูกนกเขาตัวนันมันตื่นก่อนแล้วและก็กำลังสำรวจห้องรับแขกด้วยการกระโดดและบินช่วงสั้นๆ ไปจนทั่วต้องตามตะครุบมาเข้ากล่อง คราวนี้พอเห็นพ่อแม่มันก็เริ่มกระโดดตามจนตกจากระเบียงบ้าน และครู่ต่อมาพ่อแม่มันก็นำลูกนกตัวนั้นบินขึ้นไปเกาะอยู่บนต้นเฟื่องฟ้าหน้าบ้านจนได้ ทำให้อุ่นใจว่ามันต้องพ้นจากหมาและแมวแน่นอน เย็นนั้นมันบินกลับมากระโดดหยองแหยงอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านข้างๆ กล่องของมันพร้อมกับพ่อแม่ แต่ไม่ยอมเข้ากล่องแต่กลับบินไปนอนอยู่ที่ต้นเฟื่องฟ้า

จากวันนั้นจนถึงวันนี้จะมีนกเขาเพียงตัวเดียวที่กล้าเข้าใกล้เราและแน่ใจได้ในทันทีว่าเป็นเจ้าลูกนกตัวนั้น จากอาการที่แสดงออกเช่น การเข้ามาเกาะอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านเป็นประจำ และการนิ่งเฉยเมื่อเราเดินผ่านขณะที่มันเกาะอยู่ที่ต้นเฟื่องฟ้าข้างหน้าบ้านซึ่งได้รับการตกแต่งตัดเล็มกิ่งก้านที่เกะกะออกจนสะอาดตาและก็มีการบังคับทิศทางของกิ่งก้านที่แตกออกมาใหม่ให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการดูแล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์ต่อไป ซึ่งตอนนี้มีกระแตอีกสองตัวที่เริ่มเคลื่อนที่จากป่าหลังบ้านเข้ามาที่ต้นเฟื่องฟ้าต้นนี้

ก็ยินดีต้อนรับทุกชีวิต แต่คงจะต้องขอร้องพี่ท่านตัวยาวๆ กรุณาไปพักที่อื่นจะดีกว่า เพราะวันก่อนมาติดตาข่ายพลาสติกตายคาที่ไปเป็นรายที่สามแล้ว ไม่อยากเป็นบาปน่ะทั้งๆ ที่พี่ท่านคงมีเจตนามาเล่นงานลูกไก่หรือใข่ไก่ของเรา และจากขนาดของบางท่านกับความยาวเกิน 1 วาเชื่อว่า แม่ไก่ พ่อไก่ ก็ไม่น่ารอดไปได้ และมันทำให้เจ้าของบ้านก็ขนหัวลุกเหมือนกัน


เริ่มบังคับทิศทางของกิ่งก้านให้สูงพ้นหัวก่อนแผ่ออกด้านข้าง

บ่อยครั้งที่จะออกไปนั่งที่ระเบียงมองนกเขาสามแม่ลูกที่หน้าบ้าน ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะนกเขา แต่ยังมีทั้งนกเอี้ยง นกกระจอก นกพิราบ ที่วนเวียนไปมาทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน อาศัยอาหารไก่เป็นอาหารหลักและอาศัยสระน้ำหลังบ้านเป็นที่พักผ่อนกัน ทำให้บริเวณบ้านมีเสียงนกเซ็งแซ่ตลอดเวลา ส่วนรังนกเอี้ยงที่อยู่ต่ำสุดน่ะสูงเพียงอกเท่านั้นอยู่ที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน บางรังก็ไปอยู่ที่หน้าต่างห้องน้ำด้านนอกของมุ้งลวด บางรังก็มาอยู่ที่กันสาด บางตัวมาทำรังอยู่ในโรงเก็บของที่สร้างไว้ติดตัวบ้าน ส่วนป่าหลังบ้านคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีรังนกมากมายเพีงใด เฉพาะนกเขาคงไม่ต่ำกว่า 10 รัง 
ตราบใดที่ไม่มีการก้าวก่ายรบกวนซึ่งกันและกัน เราก็คงใช้ชีวิตร่วมกับสรรพสัตว์ในโลกได้เสมอ หากยังมั่นคงในชีวิตที่ไม่ถูกเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบเราก็ยังคงมีที่ยืนอยู่ในสังคมนี้ต่อไป จนกว่าคนบางคนที่มีแต่ตัณหา ความโลภ จะมากอบโกยเอาทุกสิ่งไปจากเราจนหมดสิ้น
ด้วยอำนาจทางการเมืองและทรัพย์สินมากมายล้นฟ้าที่มีอยู่อย่างไม่รู้จักความพอเพียง
แต่ก็รู้ดีว่าทรัพย์สินเหล่านั้นไม่สามารถดำรงอยู่จีรังยั่งยืน
เนื่องจากมีสายเลือดที่ไร้สมองเป็นทายาท  มองไม่เห็นอนาคตที่รุ่งเรืองยั่งยืน
จึงต้องพยายามทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ให้วอดวาย
และพยายามยึดครองทุกสิ่งทุกอย่างไปจากผู้อื่นโดยปราศจากความละอาย 
แม้แต่คุณค่าของความเป็นมนุษย์

แด่ ... ไอ้โง่ผู้ยิ่งใหญ่
ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองโง่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า