วิถีธรรมชาติ


ภาพนี้เป็นทิวทัศน์หลังบ้านด้านทิศตะวันออกภายหลังจากการรองรับความชุ่มฉ่ำจากน้ำฝนมาหลายเพลา ผลที่ติดตามมาคือวัชพืชหลากหลายชนิดที่เติบโตขึ้นมารอรับการลงแรงถากถางครั้งใหญ่ จากคนขี้โรคซะด้วย เวรกรรมแท้ๆ แต่มันก็เป็นภาระที่ต้องจำยอม เพราะทั้งบ้านก็มีอยู่คนเดียวที่ต้องทำและทำมาหลายปีแล้ว เนื่องจากท่ามกลางความเขียวขจีเหล่านี้ มีทั้งต้นมะนาว ต้นข่าแดง ต้นมะม่วง ต้นลำไย ต้นขนุน ต้นชมพู่ ต้นกระท้อน ต้นกล้วยหอม ต้นสัก ฯลฯ ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างช้าๆ 

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นคงต้องรอจนกว่าจะหมดฝนแผ่นดินเริ่มแห้งแล้วนั่นแหละถึงจะได้ฤกษ์ได้ยามลงจอบถากถางกัน เพราะระยะนี้ดินมันแฉะไปหมดทำอะไรไม่สะดวกเอาเสียเลย (ขี้เกียจด้วยแหละเป็นประการสำคัญ) ขอนอนพักผ่อน ดูหนังฟังเพลงไปตามอัธยาศัยก่อนซักเดือนสองเดือน ค่อยมาว่ากันทีหลัง


เมื่อหลายเดือนที่แล้วมีลุฏหมาตัวนึงเดินเปะปะมานอนอยูข้างๆ บ้านๆ พอเห็นหน้าก็วิ่งหายเข้าป่าไปทุกที จนมาระยะหลังมันกล้าพอที่จะชำเลืองมองก่อนจะวิ่งหลบไปห่างๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นหลังจากที่แม่บ้านเทเศษข้าวใส่จานไว้ให้ที่หลังบ้าน แม้จะไม่เป็นประจำทุกวัน แต่เจ้าหมาตัวนี้ก็อุตส่าห์มายืนรออยู่ได้ทุกวัน และเริ่มเข้ามาคลุกคลีตีสนิทกับคนในบ้าน(ที่มีอยู่ 2 คน)  เริ่มจากการเดินตามเวลาออกไปเดินสำรวจพื้นที่หลังบ้าน แล้วก็นั่งเฝ้าเวลาทำงาน  มิหนำซ้ำยังรู้ภาษาคนอีกด้วย เมื่อสั่ง "นั่งลง" มันก็จะทำตามโดยไม่ลังเล แสดงว่าคงจะเคยรับการสั่งสอนมาบ้างแล้วจากเจ้าของเดิม

แต่ปัญหามันเกิดจากความกระตือรือล้นของมันเวลาแม่บ้านขี่รถมอเตอร์ไซต์เข้าบ้าน เจ้าหมอนี่จะดีใจเป็นกรณีพิเศษวิ่งเข้าไปต้อนหน้าต้อนหลังเลียแข้งเลียขาจนรถแทบล้มมาทุกครั้ง ทำให้ไม่เป็นที่สบอารมณ์แม่บ้านนัก อาหารของมันเลยไม่ค่อยสม่ำเสมอว่าจะได้กินหรืออดในแต่ละวัน ลำบากตัวเราที่เห็นมันนั่งมองหน้าทีไรต้องยกขนมปังให้มันกินทุกเช้า ยอมกินกาแฟเปล่าๆ สงสัยว่าซักวันคงต้องยกกาแฟให้มันไปกินด้วย

ดูเหมือนบ้านนี้จะกลายเป็นที่พักพิงหมาจรจัดไปโดยปริยาย เพราะนี่ก็เป็นตัวที่ 2 แล้วหลังจากที่ตัวก่อนหน้านั้นเคยมาใช้ชีวิตวัยชราของมันอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสฝังมันกับมือเพราะไม่รู้ว่าถูกใครจับเอาไปแลกกาละมังซะแล้ว เพราะไม่ได้เห็นหน้าัมันมานานนับเดือน

ชีวิตหมาๆ ของมัน เปลี่ยนแปลงไปโดยที่มันเองคงคาดเดาต่อไปไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า  และตัวมันเองจะคาดหวังอะไรเอาไว้บ้างหรือไม่? วันพรุ่งนี้มันจะยังคงมีโอกาสได้กินอาหารหรือไม่? เชื่อว่าตัวมันเองคงเหมือนกับคนเราที่ไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่คนเรายังโชคดีที่ยังมีความหวังในวันข้างหน้า อาจจะด้วยการกำหนดแผนการเอาไว้ล่วงหน้าถึงอนาคตที่ยังพอจะมีบางเรื่องที่สามารถจะกำหนดไว้ได้

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสามารถโกงกินประเทศชาติได้อย่างต่อเนื่องยาวนานก็จะต้องวางตัวผู้สืบทอดอำนาจนั้นไว้ให้ชัดเจนเพื่อให้สามารถโกงกินต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่ก็ต้องมีการวางแผนการเอาไว้สำหรับกรณีที่พลาดพลั้งถูกจับได้ หรือถูกเพื่อนพ้องหักหลัง และถูกนำตัวขึ้นศาลตัดสินคดี และมีความผิดจริงตามฟ้อง(อันที่จริงมันผิดตั้งแต่ยังไม่ถูกฟ้องแล้วแหละ) ท่านก็จะต้องเดินทางออกนอกประเทศอย่างเงียบเชียบด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนพ้องบางคน เพื่อให้สามารถเสพสุขอย่างอิ่มเอมในต่างแดนตลอดชีวิต แต่หากเพื่อนพ้องกลับมามีอำนาจวาสนาก็ยังสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศอย่างสง่าผ่าเผย ไร้มลทิน ด้วยกระบวนการนิรโทษกรรม กฎหมายยอดนิยมของคนยุคใหม่ตามระบอบประชาธิปไตยของนายทุน

ไม่มีปัญหาอะไร? ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เพราะบ้านเมืองเราต้องเคารพกฎหมาย เพราะบ้านเมืองเรามีผู้รักษากฎหมาย และกฎหมายเหล่านี้พวกเราก็เป็นผู้ร่างขึ้นมาเอง เรามีทรัพย์สินเงินทอง มีอำนาจ เพียงพอที่จะออกกฎหมายให้ผู้รักษากฎหมายมองไม่เห็นกฎหมายที่จะต้องรักษาก็ได้

เพราะบ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตย
ทุกคนจึงมีสิทธิ มีอิสระเสรี อย่างเต็มที่
ในการที่จะทำเรื่องดีเพื่อบ้านเมือง
หรือทำเรื่องชั่วร้ายอะไรก็ได้เพื่อตนเองและพวกพ้อง
ถ้ามีอำนาจและมีเงิน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า