วัฏจักรสงสาร


เมื่อหลายวันก่อนต้นสักที่ปลูกเอาไว้ประมาณ 12 ปีเห็นจะได้ถูกลมกรรโชกแรงสะบัดพัดไม่กี่อึดใจ ก็เป็นอันล้มครืนลงมาอย่างสง่างามโดยไม่ยอมลงไปนอนกับพื้นให้นับ 10 ง่ายๆ เหมือนนักมวยไทยยุคปัจจุบัน แต่กลับอาศัยแรงหน่วงของการตกกระทบพื้นจากการกวาดกิ่งก้านหาที่ผ่อนน้ำหนักตัวเอง ด่านแรกเป็นต้นมะม่วงอายุ 5 ปีเศษด้านซ้ายมือกิ่งมะม่วงที่ยื่นออกมาขวางทางมีขนาดเท่าน่องถูกฉีกออกจากต้นอย่างสะดวก แต่ส่วนยอดของต้นสักนั้นกลับพบกับแรงต้านทานระดับสุดยอดที่สามารถรองรับน้ำหนักนับตันได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะเป็นต้นมะขามยักษ์อายุเท่ากับต้นสักเพราะเติบโตมาพร้อมกัน นั่นคือ ประมาณ 12 ปีช่วงก่อนการปลูกบ้านหลังนี้


ความเสียหายที่มะขามยักษ์ได้รับคือ ต้องสูญเสียกิ่งใหญ่ขนาดเท่าแขนไปเพียงกิ่งเดียวเนื่องจากน้ำหนักทั้งหมดของต้นสักถ่ายลงมาที่กิ่งใหญ่ที่สุดของส่วนยอดแล้วก็ฟาดลงมาตรงง่ามของกิ่งมะขามทำให้เกิดความเสียหายตรงจุดนั้น แล้วน้ำหนักทั้งหมดก็ถูกกระจายออกไปตามกิ่งก้านสาขาทำให้กิ่งมะขามหลายๆ กิ่งสามารถกระจายน้ำหนักรองรับแรงกดลงมาของต้นสักได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ไม่เกิดความเสียหายอะไรเพิ่มเติม


ช่วงเวลาต่อไปคือการรัดรอนกิ่งก้านสาขาของต้นสักออกให้หมดและนำลำตัวมันลงนอนลงบนพื้นอย่างสงบเป็นอันจบสิ้นกระบวนการ รอเวลาการผ่าซอยเพื่อนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ตามความต้องการต่อไป ซึ่งคงจะต้องคำนวณปริมาณและรูปแบบที่เหมาะสมต่อไป เพราะสถานภาพโดยเฉลี่ยมันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนต้นประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนปลายสุดของความตรงที่ 26 เมตรเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เซนติเมตร พื้นที่ที่จะนำมาใช้ประโยชน์จึงมากมายพอสำหรับโต๊ะทำงานสวยๆ ซักตัว


กิ่งก้านของต้นสักจำนวนมากที่ถูกตัดริดออกมาจากลำต้นแล้วถูกนำมาผึ่งแดดให้แห้ง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ด้วยความเสียดายเพราะหลายกิ่งก็ใหญ่พอที่จะตัดซอยผ่าแบ่งออกมาเป็นไม้ชิ้นเล็กๆ ที่สามารถนำมาใช้ทำชิ้นส่วนต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ 

เนื้อหาของบทความเพิ่งจะเขียนไปได้ไม่ถึงเสี้ยวของที่ตั้งใจเอาไว้แต่มันเกิดเหตุแทรกซ้อนขึ้นมาพอดี นั่นก็คือผมเพิ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อครู่นี้เองหลังจากที่วูบหลับไปขณะที่กำลังเขียนย่อหน้าที่แล้วอยู่

เมื่อมามองดูเวลาและคาดคะเนดูคร่าวๆ ผมคงจะนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัวเป็นเวลานานกว่า 20 นาที ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแน่นอนเพราะบางครั้งก็จะวูบไปนานเพียง 2-5 นาทีในรูปแบบของการหลับในช่วงสั้นๆ และสะดุ้งตื่นเมื่อเริ่มเสียการทรงตัวหรือมีเสียงกรนดังขึ้นมา ก่อนหน้านั้นประมาณเดือนที่แล้วผมเปิดคอมพ์ดูหนังจำได้ว่าดูถึงตอนขึ้นไตเติ้ลชื่อเรื่อง ดารานำ แล้วก็สะดุ้งตื่นมาเห็นว่าหนังกำลังขึ้นซับไตเติ้ลตอนจบเรื่องพอดี นั่นหมายความว่าผมหลับไปไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นอย่างน้อยโดยที่ไม่ตกจากเก้าอี้และไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวางเช่นเคย นานมากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากในบางครั้งเมื่อหลับไปเกิน 5 นาทีจะต้องตื่นเนื่องจากเกิดอาการชา ตามแขน ขา หรือก้มลงมาคางชิดอกจนหลอดลมติดขัดหรือเอียงหน้าไปด้านข้างจนปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ทำให้ต้องสะดุ้งตื่นกลางคันเสมอ

สาเหตุนั้นไม่ต้องเสียเวลาคิด มันเนื่องมาจากร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อนนอนผมจะต้องกินยาลดความวิตกกังวล 2 เม็ดเสมอในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน นั่นจะทำให้ผมหลับสนิทไปประมาณ 2-4 ชั่วโมง แล้วก็จะต้องตื่นขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ก่อนจะตั้งท่านอนหลับต่อไปอีกครั้งแล้วก็จะต้องตื่นอีกครั้งใน 1 -2 ชั่วโมงต่อมา เป็นอยู่อย่างนี้หลายปีมาแล้ว การนั่งหลับไปตามสภาพจึงเป็นทางออกของสังขารตามธรรมชาติ

คอมพ์ที่ใช้งานมากจนเครื่องชำรุด
ยังมีโอกาสแฮ๊งค์ปิดเครื่องดับไปเองได้
คนก็ไม่ผิดกันนัก
มีโอกาสปิดเครื่องตัวเองได้เสมอ
ทุกเวลา ทุกโอกาส
และอาจจะมีบางครั้ง
ที่จะต้องปิดแบบถาวร



ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า