เรี่ยวแรงที่อ่อนล้า



ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนที่จะเริ่มลุยถากถางจนเหลือแต่พื้นดิน แต่เมื่อวานนี้มันกลับไปมีสภาพเหมือนในรูปอีกครั้งหนึ่งจึงต้องแบกจอบออกไปยืนดูพักใหญ่ก่อนที่จะแบกจอบกลับมาไว้ที่เดิม เพราะรู้สึกอ่อนล้าทั้งจิตใจและสังขาร นี่อาจจะเป็นเพราะยึดอาชีพรับราชการเป็นหลักมานาน พอมาเจองานที่ต้องใช้เรี่ยวแรงและเหงื่อมาเป็นตัวช่วยมันก็เลยออกอาการท้อแท้ในบางหน แต่รับรองได้ว่าขอเวลาซักสองสามวันจะกลับออกไปอีกหน คราวนี้จะไม่มีการยั้งมือล่ะ มันจะต้องกลับไปเหลือแต่พื้นดินที่ปราศจากวัชพืชอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน แต่วันนี้บอกตรงๆ ว่าขี้เกียจจริงๆ

พื้นที่กว่าสามไร่ของบ้านสร้างงานให้กับสองมือไม่มีที่สิ้นสุด พอหน้าบ้านเกลี้ยงเกลาก็ต้องมีภาระย้อนกลับไปกวาดล้างที่หลังบ้าน จากนั้นก็จะย้อนวงจรกลับมาที่หน้าบ้าน ข้างบ้านไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าพื้นที่เหล่านั้นจะมีกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เช่น บางพื้นที่เริ่มปลูกไม้ยืนต้นลงไว้เป็นระยะๆ โดยมีมะขามยักษ์เป็นตัวชูโรงเพราะหว่านเมล็ดทิ้งไว้มากมายจนเติบโตเป็นกลุ่มๆ เหมาะแก่การเคลื่อนย้ายไปปักหลักในสถานที่ที่เหมาะสม ส่วนพื้นที่ป่าย่อมๆ บริเวณข้างบ้านส่วนมากก็จะปล่อยให้เติบโตไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีทั้งผักโขมจีนต้นโตๆ ต้นขี้เหล็กอ่อนๆ ต้นแค ต้นยอ ต้นหนาด ขึ้นปะปนอยู่กับพวกหญ้านานาชนิด ซึ่งจะต้องค่อยๆ ทำลายต้นตอลงไปทีละส่วนอย่างเป็นระบบ

พื้นที่หน้าบ้านได้กำหนดไว้แล้วว่าส่วนใหญ่จะปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ซึ่งไม่มีความสูงมากนัก ยกเว้นหมากนวลที่ปลูกไว้เป็นกลุ่มๆ มากมายหลายสิบต้น กับกลุ่มต้นราชพฤกษ์ที่กำลังเติบโตนับสิบต้นจนมองดูเขียวชอุ่มไปหมดและจะเหลืองอร่ามไปหมดเมื่อเข้าเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี โดยมีเฟื่องฟ้าอีกสามกอที่จะเป็นพุ่มออกดอกแข่งกันตลอดปีทั้งขาว-ขาวอมชมพู-ส้ม-แสดและแดง ส่วนอีกด้านก็จะมีชงโคซึ่งออกดอกตลอดปีอีกสองต้น ส่วนชวนชมกับโป๊ยเซียนตอนนี้มีแต่ที่กำลังเติบโตอยู่ในกระถางเท่านั้น ยังมองหาที่เหมาะสมบนพื้นดินไม่ได้ แต่มะลิซ้อนสองต้นก็ยังมีแทรกปะปนอยู่กับพวกพ้องบ้าง สำหรับไม้ใบนานาพันธุ์ก็ยังคงเติบโตอย่างเป็นระบบในที่ที่กำหนด ความสวยงามของก้าน ใบ อันเป็นจุดเด่นก็ยังมีความสวยงามตามแบบฉบับของตัวเอง

เมื่อวานนี้ได้รับว่านรางจืดมาจากเพื่อนทางใต้ "หมวดกิจจา" จาก จ.ตรัง ซึ่งเพื่อนก็ส่งมาให้ทั้งรากเหง้าที่ตากแห้งพร้อมใช้งาน กับต้นกล้าที่พร้อมจะนำมาปลูกแพร่ขยายพันธุ์อีกต่อไปหลายต้น"รางจืด" นับเป็นว่านที่ผู้คนเสาะแสวงหากันมากมายเพราะประโยชน์ในการแก้พิษมากมาย แต่ส่วนมากคอสุราชอบนำไปทำลายงานเลี้ยงให้ล่มจมเพราะสรรพคุณในการทำให้เหล้ากลายเป็นน้ำ เข้างานไหน เจ้าภาพได้หมดเหล้าไม่รู้กี่ใหต่อกี่ให แต่แถวบ้านผมคุ้นเคยในการแก้พิษของยาสั่งที่ยังคงมีอยู่ประปราย แล้วก็แก้พิษที่เกิดจากสารเคมีระดับชาวบ้าน เช่นยาเบื่อหนู ยาฆ่าหญ้า ที่ใครเผลอกินเข้าไปหรือถูกใครกรอกปากเข้าให้ ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนมากๆ เลยที่ช่วยสนับสนุนสมุนไพรไทยไม่ให้สูญหายไปหมดจากโลกนี้ หรือใครมีอะไรใหม่ๆ อยากให้ผมช่วยเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ก็ยินดีต้อนรับครับ

การเมืองบ้านเราในวันนี้ ผมขอไม่พูดถึงครับ เพราะอาจจะทำให้อดกินน้ำพริกโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากอำนาจเผด็จการนั้นไม่มีวันสูญหายไปจากบ้านเรา ทุกอย่างมันเริ่มมาจากการก่อกำเนิดของอิทธิพลในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ ซึ่งมันเพียงแต่รูปแบบไปเท่านั้น แต่บ้านของเรายังคงจมปลักอยู่กับมันตลอดมา 

สังคมที่ไร้จริยธรรม 
สังคมที่ไร้ความยุติธรรม 
สังคมที่ไม่มีความเสมอภาค 
สังคมที่มีแต่ระบบอุปถัมภ์ 
สังคมที่มีแต่คำว่าพวกพ้องของกู 
สังคมที่มีแต่เสียงของคนรวย 

นี่แหละครับบ้านของเรา
เท่าที่ผมมองเห็นด้วยสองตาของตัวเอง
และได้ยินมากับสองหูของตัวเอง 

แต่ในพื้นที่บ้านของผมปราศจากสิ่งเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด
และผมก็ไม่ต้อนรับสิ่งเหล่านั้น
ให้เข้ามารกสมองของผมแน่นอน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า