บ่นอยู่หลังบ้าน


บุคคลที่เห็นอยู่ในภาพข้างบนนี้ ขอรับรองว่าไม่ใช่อดีตผู้นำเผด็จการของประเทศใดในโลกนี้เด็ดขาด และก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความแม้แต่น้อย เพียงแต่นำมาประดับไว้ดูเล่นเท่านั้นเอง อันที่จริงแล้วช่วงเวลานี้เป็นฤดูกาลของการลงไปไล่เก็บกวาดวัชพืชที่อุดมสมบูรณ์มาจากฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้บริเวณบ้านทั้งด้านหน้าด้านหลังเขียวขจีไปหมด และหน้าบ้านฝั่งที่ยังไม่ได้ดำเนินการวางผังเมือง ตอนนี้หญามันสูงเกือบท่วมหัวเสียแล้ว เห็นแล้วก็ท้อเหมือนกันเพราะพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ลุยด้วยมือเพียงคู่เดียวที่เริ่มจะอ่อนล้าตามเลข พ.ศ.ที่เพิ่มขึ้น

เหตุผลที่ละเลยต่องานประจำก็เพราะใช้เวลาในการติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องชนิดชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อติดตามสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ในทุกช่องทางของข่าวสาร และก็ติดตามดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของนักการเมือง นักวิชาการ สถาบันต่างๆ ทางการเมือง การปกครอง ซึ่งก็มาจากการปะกาศยุบสภาของรัฐบาลนั่นเอง ที่จะมีผลติดตามมาหลายประการ 

อย่างแรกก็คือ การกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ 2557 ที่จะกลายเป็นปมปัญหาสำคัญของพรรครัฐบาลที่หวังครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดิม เพราะผู้ที่เป็นกำลังสำคัญของพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ต่างพากันพ้นกำหนดโทษแบน 5 ปีกลับคืนสู่สังเวียนกันอีกครั้งอย่างล้นหลามทั้งจากบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 และนักการเมืองผสมนายทุนจาก 2 กลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกระเป๋าเงินของพรรคซึ่งมีส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันความหวังให้ลุล่วงไป

ส่วนแกนนำมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยเป็นกำลังสำคัญในการเข้ามาสู่อำนาจของรัฐบาลกำลังตกอยู่ในสภาพของชนวนระเบิดที่พรรคจำเป็นที่จะต้องปลดออกไปจากพรรคโดยเร็ว เพราะในจำนวนนี้มีแนวร่วมจากหลายแหล่งที่มา ทั้งกลุ่มที่มีความมุ่งหมายในการล้มล้างระบอบการปกครองโดยสมบูรณ์ ทั้งกลุ่มที่ต่อต้านรัฐประหาร ส่วนกลุ่มคนรักทักษิณนั้นหากนำมาวัดกำลังดูแล้วจะเห็นว่ามีน้อยเต็มทน

ยังโชคดีที่นโยบายประชานิยมบางเรื่องสามารถสร้างสมฐานเสียงสนับสนุนไว้ได้ไม่ใช่น้อย (แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างความล่มจมให้กับประเทศชาติโดยรวมก็ตาม) และโครงการประชานิยมเหล่านี้ก็ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไม่ใช่เงินของพรรค ทำให้ทุ่นค่าใช้จ่ายไปไม่ใช่น้อย 

แต่สมาชิกพรรคหลายคนที่ได้รับโอกาสเข้ามามีตำแหน่งทางการเมือง ได้เชิดหน้าชูคอในสังคม เริ่มมีความหวาดระแวงว่าบรรดาสมาชิกพรรครุ่นเก่าๆ จะย้อนกลับมาทวงคืนเก้าอี้จากคนหน้าใหม่สายเสื้อแดง อันอาจเป็นชนวนความแตกร้าวภายในพรรคอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และหากมี บรรดา ส.ส.ขาใหญ่จากพรรคอื่นดาหน้ากันเข้ามาเพิ่มก็ยิ่งปิดเส้นทางเติบโตขยายตัวของคนเสื้อแดงโดยสิ้นเชิง

ที่สำคัญที่สุดก็คือ การสบประมาทคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่ปิดปากสงบเงียบมานานแสนนานว่าจะไม่ออกมาแสดงตนคัดค้าน ซึ่งกาลเวลาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วในขณะนี้ แม้รัฐบาลจะประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ตาม ประชาชนส่วนมากก็รู้ดีว่าผลจะออกมาเช่นไร 

และคิดออกว่ารัฐบาลใหม่จะทำอะไร ?

และแน่นอนว่าเมื่อประชาชนส่วนใหญ่เหลืออด อีกครั้งหนึ่ง

เรื่องเหล่านี้ก็จะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
จนกว่าจะมีใครคนหนึ่งตายจากไปตามวัฏจักรของโลก

วันนี้ไม่อยากถากถางหญ้าอีกแล้วปล่อยให้มันรกบ้านรกเมืองต่อไปเถอะ
คนรกบ้านรกเมืองยังเดินกันพล่านเต็มไปหมด
ทำไมจะปล่อยให้หญ้ามันขึ้นกันมาบ้างไม่ได้เล่า
อย่างน้อยวัวควายยังอาศัยมันเป็นอาหารได้

ผิดกับบ้านเมืองที่รกคน ... ไม่มีหิริ โอตัปปะ
... มันไร้คุณค่าในทุกด้าน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บัวสี่เหล่า

บริการสาธารณะ

มองไปข้างหน้า