บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2011

มองหาความหมาย

รูปภาพ
ต้นราชพฤกษ์นี้ถูกเพาะเลี้ยงไว้ตั้งแต่รุ่นแม่ผู้ใ้ห้กำเนิดที่ปลูกไว้หน้าศาลพระภูมิของบ้าน เมื่อเริ่มแตกหน่อผลิใบจึงต้องหาทำเลที่อยู่ให้ใหม่เพื่อความเหมาะสม และจุดที่เหมาะที่สุดจึงเป็นแนวเดียวกับผู้ให้กำเนิดโดยมีระยะห่างจากแนวเขตบ้านประมาณ 5 เมตร ในวันหนึ่งข้างหน้าช่วงต้นปีประมาณเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ก็จะมีโอกาสได้เห็นดอกสีเหลืองสว่างไสวเหมือนกับสีของตัวบ้าน มันเป็นความสดใสจากธรรมชาติที่แท้จริงเป็นทั้งร่มเงาให้กับร่างกายของมนุษย์ เป็นทั้งผู้ให้ความร่มเย็นทางความรู้สึกเมื่อได้มอง เป็นชีวิตหนึ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับอีกหลายชีวิต มาอ่านเนื้อหาทางวิชาการสักหน่อยจากวิกิพีเดีย ราชพฤกษ์ หรือ คูน (อังกฤษ: Cassia fistula) เป็นไม้ดอกในตระกูล Fabaceae เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียใต้ ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดีย พม่า และศรีลังกา ดอกราชพฤกษ์เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในที่โล่งแจ้ง สามารถปลูกได้ทั้งดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ทนต่อความแห้งแล้งและดินเค็มได้ดี แต่ไม่ทนในอากาศหนาวจัด ซึ่งอาจติดเชื้อราหรือโรคใบ

มองตามช่อง

รูปภาพ
ต้นชงโคที่ปลูกไว้หน้าบ้านกำลังแผ่กิ่งก้านขยายตัวออกไปเพื่อครอบครองพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่พื้นที่จะอำนวยให้ มันคงจะเป็นวิถีทางของธรรมชาติซึ่งต้องการแสดงออกถึงอำนาจในการให้ความคุ้มครองป้องกันพื้นที่ของตน ในขณะเดียวกนก็ผลิดอกออกใบขยายกิ่งก้านไปพร้อมๆ กัน หากมองดูในระยะห่างจะเห็นถึงความสวยงามของดอกชงโคในอึกมุมมองหนึ่ง แต่ถ้าหากเข้ามาพิจารณาในระยะใกล้ๆ ก็จะเห็นถึงความสมบูรณ์ของกลีบดอกแต่ละกลีบซึ่งธรรมชาติบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างไร้ที่ติ เมื่อสองปีที่แล้วเมื่อเริ่มขุดหลุมแกะต้นไม้เล็กๆ สูงเพียง 20 เซนติเมตรลงไปปลูกไว้ แล้วก็รดน้ำทุกวันประคับประคองด้วยการใช้ไม้ปักตรึงไว้ให้ตั้งตรง ไม่เคยนึกว่ามันจะเติบใหญ่ได้รวดเร็วขนาดนี้ และกิ่งก้านแต่ละกิ่งนั้นทอดตัวยาวขนานไปกับพื้นยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตรแสดงถึงความร่มรื่นอันกว้างใหญ่ในอนาคต  ต้นไม้ก็คือต้นไม้ และมนุษย์ก็เป็นเช่นกันที่ ต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการอบรมบ่มเพาะจากบรรพบุรุษว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด? ซึ่งขึ้นอยู่กับความคิดขั้นพื้นฐานภายในครอบครัวว่ามีที่มาอย่างไร? ความเจริญเติบโตของครอบครัวมีความเป็นมาอย่างไร? และค

การควบคุม

รูปภาพ
วันเวลาที่ผ่านไปในสถานที่ที่ห่างไกลจากสังคมของผู้คนใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับธรรมชาติด้วยความสงบอย่างที่ไม่เคยพานพบมาก่อนตลอดช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น เคยมีเพื่อนๆ หลายคนบอกว่าให้ออกไปหาเพื่อนฝูงมั่ง เดี๋ยวจะเหงาตาย แต่นั่นคงไม่ใช่ความคิดที่ถูกนักหรอกเพราะดังที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า "ความคิด" ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน มีความรัก ความชอบ ความเกลียดชัง ในมุมมองที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นความไม่ถูกต้องของคนๆ หนึ่ง อาจจะถูกต้อง ดีงามในความคิดของอีกคน นี่คือ สัจธรรม เพราะฉะนั้น ความชอบของแต่ละคนจึงเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ไม่ควรมีผู้หนึ่งผู้ใดมาล่วงละเมิดด้วยการ "ตัดสิน" ความคิดนั้นว่าถูกหรือผิด สิ่งหนึ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือ "ความคิดและการกระทำ" ของเราจะต้องไม่ไปรบกวนหรือล่วงละเมิดสิทธิหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่น หรือมีผลกระทบต่อความเป็นไปของสังคมโดยรวมด้วยประการทั้งปวง การควบคุมจิตใจและการกระทำมิให้ไปก้าวก่ายล่วงละเมิดความคิดและการกระทำของผู้อื่นเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ไม่ยากเย็น หากต้องการจะทำจริง เพราะดูจะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อสมองที

สังคมที่อ่อนแอ

รูปภาพ
ประมาณปี 2546 หรือ 47 ปีไหนก็ชักไม่แน่ใจแล้วแต่จำได้ว่าเคยใช้เวลาในช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกเอาอาหารปลามาหว่านอยู่ริมสระน้ำนี้เมื่อมีโอกาสได้กลับมาบ้านช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ช่วงนั้นมีปลานิลอยู่ไม่ใช่น้อยและก็รู้เวลาอาหารดีเสียด้วย เพราะเพียงแต่เดินมาถึงขอบสระ พวกมันก็จะพากันแห่แหนมาเต้นระบำใต้น้ำให้ดูเป็นการแลกเปลี่ยนกับอาหารชั้นดี แต่ละตัวโตกว่าฝ่ามือทั้งนั้นเท่าที่ลองกะดูคร่าวๆ น่าจะเกินร้อยอย่างแน่นอน เป็นช่วงเวลาของการผ่อนคลายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เวลาผ่านมาไม่กี่เกือนเมื่อเดินไปถึงขอบสระปรากฎว่าผืนน้ำเงียบสงบเหมือนทะเลหลังเกิดมรสุม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ปรากฎให้เห็นเลยแม้แต่ชีวิตเดียว จากการคาดเดาเชื่อว่าคงจะมีมือดียืนรอปลามารวมพลจนครบถ้วน ซึ่งมันจะทำทุกครั้งเมื่อเห็นคนมายืนขอบสระ และหลังจากนั้นปลาทั้งหมดก็จะถูกรวบไว้จากการใช้แหตาถี่ๆ หว่านลงไปเพียงครั้งเดียว หรืออาจจะมีการตามเก็บกวาดอีกระลอกหรือหลายระลอก แต่สรุปแล้วก็คือเกลี้ยงหมดทั้งสระขนาดเกือบ 2 งาน ผู้อ่อนแอไม่เคยรู้จักให้อภัย การให้อภัยเป็นคุณลักษณะของผู้เข้มแข็ง ..... คำพูดประโยคนี้เป็นของท่าน มหาตมะ คานธี ดังนั้นจึง

ฝึกสมาธิ

รูปภาพ
ในช่วงเวลาของการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของบ้าน นั่นหมายความถึงการถากถางวัชพืช การปลูกต้นไม้ในพื้นที่ การบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ และการปรับแต่งสภาพภูมิทัศน์ของบริเวณบ้าน เวลาเหล่านี้ถ้าจะเรียกว่างานก็ย่อมได้ แต่สำหรับตัวเราเองกลับเรียกมันว่า ช่วงเวลาของการพักผ่อนอย่างแท้จริง การเดินเตร่ไปมาช้าๆ ดูโน่นดูนี่จับนั่นจับนี่ หรือการนั่งบนเก้าอี้เตี้ยๆ แล้วบรรจงถอนต้นหญ้าทีละต้น แม้จะได้งานน้อยแต่เป็นการผ่อนคลายทุกสิ่งทุกอย่างในจิตใจได้หมดจดที่สุด ทำจิตใจให้ผ่องใสไม่มีอารมณ์ใดๆ เข้ามาแผ้วพานแม้แต่น้อย มีแต่การจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่เท่านั้น ไม่มีอดีตให้ระลึกถึง ไม่มีอนาคตให้ต้องหมกมุ่นกังวล เป็นภาวะที่หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง และเมื่อกลับขึ้นมาบนบ้านเปิดโทรทัศน์ดู อารมณ์ก็เริ่มขุ่นมัว หงุดหงิดกับการนำเสนอข่าวสารของสื่อต่างๆ ที่แย่งชิงความเป็นผู้นำด้านข่าวสารด้วยการนำเสนอข่าวสารที่มีแต่สร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นกับผู้คนในสังคม แบ่งแยกผู้คนออกเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยมุ่งหวังเพียงรายได้จากค่าโฆษณาจากสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ไร้สาระ ฟุ้งเฟ้อ ไม่มีความจำเ็ป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้คน นำเสนอแต่ร

ชมสวน

รูปภาพ
บริเวณด้านทิศเหนือของตัวบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ว่างแต่ได้รับการถมดินไว้สูงระดับเดียวกับพื้นดินบริเวณตัวบ้านแล้ว เป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับการต่อเติมออกไปเป็นห้องครัวและห้องรับรองแขกเหรื่อ แต่ยังรองบประมาณในการก่อสร้างอยู่ ดังนั้นพื้นที่ตรงนี้จึงใช้เป็นที่อยู่ชั่วคราวสำหรับอาหารนานาชนิดทั้งชนิดอยู่ประจำเป็นการถาวร อันได้แก่ ต้นขี้เหล็ก ต้นแค ต้นยอ มะกรูด ยี่หร่า โหระพา กะเพรา แมงลัก ตะไคร้ กับชนิดที่มาอาศัยเป็นการชั่วคราว เช่น กระเจี๊ยบ ฟักทอง สำหรับผักโขมจีนที่เห็นในภาพ จะเห็นได้ว่ามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่โตเอาการดูได้จากขนาดของใบก็แล้วกัน ส่วนลำต้นนั้นสูงประมาณ 2 เมตรแล้วในวันที่ถ่ายภาพไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ายังมีส่วนยอดอยู่เพราะต้องการจะเก็บเมล็ดพันธุ์สะสมเอาไว้ก่อนเพื่อการขยายพันธุ์ออกไปในวันข้างหน้าบนพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมกว่านี้ สำหรับช่วงนี้ก็สามารถเก็บมาทำอาหารได้หลายมื้อแน่นอนจากจำนวน 20 กว่าต้นที่กำลังงอกงามอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีพืชผักสวนครัวขึ้นอยู่นานาชนิดจนกินไม่ทันแต่กลับไม่มีเวลาจะไปจัดการอะไรเพราะเวลาส่วนใหญ่ที่ใช้หมดไปกับการราวีเหล่าวัชพืชหลากชนิดที่ขึ้นมาอย่างหนาแน่นเช่นเดีย

อปท.คือจุดเริ่มต้น

รูปภาพ
เมื่อวันก่อน(ก่อนเลือกตั้ง นายก อบต.น่ะ) พูดถึงการหาเสียงกันอย่างทุ่มเท ถี่ยิบ มีรถติดป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งวิ่งผ่านหน้าบ้านตลอดเวลาจนเกือบจะทุกนาที พร้อมกับเสียงประชาสัมพันธ์คุณสมบัติ คุณภาพ กันแบบไม่ออมประวัติ และเมื่อการเลือกตั้งผ่านไป สิ่งที่ตามมาก็คือ การตระเวณขอบคุณชาวบ้านอีกระลอกใน 2 วันต่อมาโดยที่ กกต.จังหวัดยังไม่ทันได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่สรุปได้ว่าผู้สมัครแต่ละท่านรู้ตัวดีว่าผลจะออกมาในรูปใดและด้วยเหตุใด ซึ่งชาวบ้านที่เกาะติดสถานการณ์ตลอดเวลาก็รู้ผลทันทีหลังการนับคะแนนในเย็นวันนั้น (ซึ่งก็นับว่าแปลกที่ กกต.ไม่ยักกะรู้กะเค้าด้วย) สิ่งหนึ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ การร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในการหาเีสียงของผู้ชนะรวมไปถึงหลักฐานในการทุจริตเท่าที่จะหามาได้(แต่ผลสรุปจะออกมาว่ารับฟังไม่ได้หรือสงสัยว่าจะมีการสร้างหลักฐานหรือสงสัยว่าจะมีการกลั่นแกล้ง ฯลฯ) เพราะถึงแม้จะเป็นการเลือกตั้งในระดับล่างๆ แต่ก็มี " โผ " เหมือนกับการเมืองระดับประเทศ ซึ่งอาจจะมาจากปัจจัยหลายประการ ยกตัวอย่างสักข้อ คือ " หัวคะแนน " ที่มีอยู่ในการเลือ

ปกครองท้องถิ่น

รูปภาพ
คอมเครื่องนี้จำได้เลือนลางว่าน่าจะซื้อมาเมื่อต้นปี 54 นี่เอง เอ..หรือต้นปี 53 ไม่แน่ใจ ยอมรับว่าสติชักจะไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าเดิมเสียแล้ว คงจะมาจากปัจจัยหลายๆ ประการ ที่อยากจะพูดถึงก็คือเมื่อครั้งที่ซื้อคอมพิวเตอร์มาเป็นสมบัติส่วนตัวครั้งแรกประมาณปี 2536 ซีพียู AMD K6 350MB iราคาซื้อตอนนั้นก็ 24,000 บาท(ถ้าเป็นปัจจุบันกับซีพียูความเร็วขนาดนี้ขายซัก 500 คงไม่มีใครซื้อ) ไม่เคยศึกษาหาความรู้ถึงชิ้นส่วนใส้ในของมันเลย สรุปก็คือใช้งานเป็นอย่างเดียว(แบบงูๆ ปลาๆ) พอมีอาการไม่ตอบสนองก็แบกไปหาช่างแล้วก็ถูกหลอกรับประทานเงินไปทีละร้อยสองร้อย และบางครั้งก็เล่นไปเป็นหลักพัน นานวันเข้าบารมีเริ่มแก่กล้าจากการพาไปหาช่างเปลี่ยนมาเป็นเริ่มลุยเข้ารักษาอาการต่างๆ ด้วยตัวเอง นอกเสียจากควันท่วมเครื่องนั่นแหละถึงจะยอมแพ้ มาถึงวันนี้ตั้งแต่ซื้อเครื่องใหม่(เครื่องที่ 3)ยังไม่เคยพาไปหาช่างเลยแม้แต่ครั้งเดียวแม้จะดับสนิทไปหลายรอบ ด้วยอาการอันเนื่องมาจากหัวสัมผัสทองแดงของชิ้นส่วนหลายชิ้นสกปรก ไวรัสถล่มฮาร์ดดิสก์จนถึงขั้นต้องล้างเครื่องลงโปรแกรมใหม่มากกว่า 10 ครั้งแล้ว แล้วก็อาการหลวมคลอนของสายต่อต่างๆ ที่จุกจิกกว

บ้านอยู่หลังวัด

รูปภาพ
บ้านของเราปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่และจากแนวรั้วด้านหลังฝ่าทุ่งนาออกไปมีระยะห่างจากด้านหลังของวัดประจำตำบลเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าบ้านของเราอยู่หลังวัด หรือว่าวัดมาอยู่ข้างหลังบ้านเรา แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือยังไม่เคยเดินเข้าไปในบริเวณวัดเลยสักครั้ง แม้จะ "คิดเอาว่า" ตัวเองเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัดต่อศีลธรรมอย่างมากคนหนึ่งชนิดที่รับรองตัวเองได้เลยว่า "มากกว่าพระภิกษุสงฆ์บางรูป" เสียอีก นั่นพูดถึงเรื่องการปฏิบัติตามหลักธรรมเท่านั้นนะ เพราะยังไม่เคยคิดจะออกไปเเดินบิณฑบาตให้ชาวบ้านจับส่งโรงพยาบาลบ้า นอกจากศาสนาพุทธจะเป็นหลักของความเชื่อแล้ว ศาลพระภูมิแม้จะเป็นแนวทางพราห์มแต่ก็ผูกพันกับศาสนาพุทธจนแยกกันไม่ออกเสียแล้ว จึงนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่มีคุณค่าสูงสุดเช่นกัน แต่จุดประสงค์ที่ต้องการจะกล่าวถึงน่ะไม่ได้เน้นไปที่ัวัดหรือศาลพระภูมิ แต่เป็น "สัจธรรม" ที่พระพุทธองค์เป็นผู้เผยแผ่มาถึงพวกเรา ซึ่งถึงบ้างไม่ถึงบ้าง รู้เรื่องบ้าง "ไม่ยอมรับรู้้บ้าง" และไม่ค่อยจะให้ความสนใจที่จะนำไปปฏิบัติ

มุมของอารมณ์

รูปภาพ
ภาพที่เห็นข้างบนนั่นไม่ใช่ภาพศิลป์ หรือพรรณไม้ต่างดาว หรือกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ที่ผสมเทียมขึ้นมาหรอกครับ ก็แค่ดอกมะขามธรรมดาๆ นี่เองที่ปลูกไว้หลังบ้าน แต่ถ้ามองใกล้ๆ แล้วก็ใช้จินตนาการซักนิดก็จะเห็นว่ามันสวยงามกว่าที่เคยเห็นมา เพราะจะว่าไปแล้วก็ไม่เคยให้ความสนใจกับมันอย่างลึกซึ้งมาก่อน เพียงแต่รู้ว่าดอกมะขามกับยอดอ่อนๆ ของมันน่ะเวลาเอามาต้มกับปลาแล้วรสชาติมันแซ่บอย่าบอกใคร โดยเฉพาะถ้าเป็นปลากดด้วยแล้วอย่าให้พูดเลยมันชวนน้ำลายสอน่ะ แต่จากภาพที่เห็นน่ะไม่ใช่แค่เป็นดอกมะขามทั่วไปนะครับเพราะต้นที่ปลูกไว้น่ะเป็นพันธุ์มะขามยักษ์ หมายความว่ามันต้องใหญ่กว่าธรรมดาแน่นอนต้นหลังบ้้านต้นนี้ปลูกไว้ครั้งแรกประมาณปี 2545 ด้วยการเพาะเมล็ดเองและนำมาปลูกไว้บริเวณกึ่งกลางพื้นที่ว่างหลังบ้านเพื่อหวังร่มเงาในภายหน้า และแล้ววันหนึ่งในปีต่อมาก็เกิดอัคคีภัยโดยเจตนาเพราะแม่บ้านเผาป่าหญ้าหลังบ้านแล้วคุมไฟไม่อยู่ ทำเอาต้นมะขามสูงแค่เมตรกว่าๆ ต้นนี้กลายเป็นซากดำเกรียมในทันที ต่อจากนั้นมาอีกเกือบปีมันฮึดสู้ชูลำต้นงอกขึ้นมาใหม่เนื่องจากรากแก้วยังมั่นคงอยู่ เกือบปีต่อมามันโตขึ้นสูงเกือบเมตรและแล้วก็เกิดอัคคีภัยซ้ำรอ

ความรู้คู่บ้าน

รูปภาพ
ภายในบ้านที่อยู่จะมีส่วนตรงกลางที่กำหนดให้เป็นเส้นทางเดินระหว่างห้องซึ่งปิดกั้นไว้ทั้งสองฟาก จากความกว้างเพียงสองเมตรก็จะถูกแบ่งเอาไปให้กับชั้นวางหนังสือขนาความกว้าง 30 เซนติเมตร ความยาว 300 เซนติเมตรและสูง 150 เซนติเมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 ชั้นกั้นไว้เป็นชั้นละ 4 ช่วงเท่าๆ กัน ภายในบรรจุไว้ด้วยหนังสือเรียนของวิชารัฐประศาสนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราชครบทั้งหลักสูตรพ่วงด้วยตำราเรียนของวิชานิติศาสตร์ วิชาเทคโนโลยี่สารสนเทศ วิชาศึกษาศาสตร์ ปะปนอยู่ด้วยเป็นบางเรื่อง ซึ่งวิชาเหล่านี้ก็ลงทะเบียนเรียนเพิ่มเติมไว้เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ได้หวังใบปริญญามาเก็บไว้ให้หนักคุณวุฒิหรอก เพราะอายุก็มากแล้วไม่รู้จะไปสมัครงานที่ไหน นอกจากนั้นก็จะมีเอกสารการเรียนของวิชาทหาร ตั้งแต่หลักสูตรนักเรียนนายสิบ หลักสูตรชั้นนายร้อย หลักสูตรชั้นนายพัน หลักสูตรนายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน แล้วก็เป็นเอกสารในการประชุมสัมนามากมายก่ายกองหลายเรื่องราว แถมท้ายด้วยเอกสารเกี่ยวกับยาเสพติดที่รวบรวมไว้เมื่อคราวเข้าไปอบรมหลักสูตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แล้วก็มีประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

สังคมในชุมชน

รูปภาพ
วันนี้ขึ้นต้นด้วยภาพของไก่ชน ไม่ได้มีความคิดที่จะชวนใครมาร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแต่โบราณด้วยการตีไก่หรอกนะ เพราะด้วยใจจริงแล้วไม่ควรเรียกเรื่องนี้ว่า การกีฬาหรือวัฒนธรรมไทย แต่ควรจะเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มของพวกนักพนันและกลุ่มที่เป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความสุขสนุกสนานเมื่อได้พบเห็นความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาณของชีวิตผู้อื่น แต่ไก่ชนที่เลี้ยงเอาไว้นี้เป็นการเลี้ยงเพื่อแก้เหงามากกว่าและเห็นมันเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนลูกหลาน ที่ต้องเลี้ยงดูเอาใจใส่เหมือนกับคนในครอบครัว เพราะเชื่อว่ามันก็คงมีความคิด มีความรู้สึกเหมือนกับคนเรา เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่มีชีวิตเช่นกัน เจ้ายาวตัวนี้ก็เช่นกันเลี้ยงมันมาตั้งแต่ออกจากไขและสะดุดตากับความเชื่องผิดพี่น้องของมัน เลยเอาใจมันเป็นพิเศษตลอดมา ดังนั้นการที่มันเดินเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ เวลาเดินลงไปบริเวณหลังบ้าน แล้วก็จะบินขึ้นไปเกาะบนราวเหล็กตากผ้าหรือกิ่งไม้สูงๆ พร้อมกับโก่งคอขันหลายๆ ครั้ง เป็นเหมือนกับการแสดงตนทักทายหรือประจบเอาใจเพราะรู้จักถึงความรักจากผู้เป็นเจ้าของและผู้อุปถัมภ์เกื้อกูลมัน นั่นคือภาพถ่ายที่เจ้ายาวไ่ก่ชนเพศผู้บรรจงแอ็คชั่นต่อหน้ากล้อง ก

มุมสงบไร้มรสุม

รูปภาพ
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว การซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ขอบนอกของหมู่บ้านดูจะไม่เป็นที่ถูกใจของบางคนในครอบครัว สาเหตุก็เพราะเห็นว่าห่างไกลจากเพื่อนบ้าน(ไกลสุดน่าจะประมาณ 50 เมตร)และห่างจากถนนสายหลักที่เป็นทางหลวงแผ่นดิน(ก็ประมาณ 300 เมตร) แต่มาถึงวันนี้ถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านก็ทอดผ่านหน้าบ้านและยาวตลอดเป็นวงกลมทั่วหมู่บ้าน ด้านข้าง ด้านหลังก็เริ่มมีการปลูกสร้างต่อเติมที่อยู่อาศัยจนเต็มไปหมดทุกพื้นที่ ยังนับว่าโชคดีที่ซื้อที่ดินไว้ถึง 3 ไร่ทำให้ยังคงรักษาระยะห่างจากความแออัดไว้ได้ มีพื้นที่เปิดว่างให้กับอากาศสำหรับหายใจเหมือนเดิม ประกอบกับต้นไม้ใหญ่ทั้งไม้ยืนต้น ไม้ประดับเริ่มเติบใหญ่ผลิดอกออกผลสรางความร่มรื่นสวยงามให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ด้านหลังของตัวบ้านก็ยังพอมีที่ว่างสำหรับการเกษตรในครัวเรือน ประเภทพืชผักสวนครัวหลากลายชนิด จนแทบไม่ต้องซื้อหามารับประทานอีกต่อไป และมีพื้นที่เปิดกว้างถาวรไว้สำรองอีกแห่งหนึ่งสำหรับการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังเปิดพื้นที่ให้กับอากาศเช่นกันอย่างน้อยก็บริเวณที่ขุดสระน้ำไว้เนื้อที่ประมาณ 1 งานนี่เอง แม้จะยังไม่มีสัตว์น้ำในต

เตรียมพร้อม

รูปภาพ
คำว่า "ข้าราชการ" มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวของมันเองในความรู้สึกของประชาชนมาแต่โบราณกาลแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย(แบบเผด็จการบ้างและทุนนิยมบ้างแล้วแต่โอกาส) และชาวบ้านโดยทั่วไปก็กลัวเกรงข้าราชการโดยไม่ตั้งใจมานานมากแล้วเช่นกัน ตางพากันผลักดัน ขับไล่ไสส่งลูกหลานให้พากันร่ำเรียนหนังสือ หวังที่จะให้ได้เข้าไปเป็นข้าราชการกับเขาบ้าง ทั้งๆ ที่ตนเองก็ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในระบบราชการสักเท่าไหร่ ว่าต้องทำอย่างไรและใช้ชีวิตอย่างไร หากจะแยกส่วนของความเป็นข้าราชการออกมาโดยอาศัยบทบัญญัติตามกฎหมายก็น่าจะแยกออกมาได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ข้าราชการทหาร และ ข้าราชการพลเรือน โดยอาศัยกฎเกณฑ์จาก พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก็จะพบว่าข้าราชการในทุกกระทรวง ทบวง กรม ก็จะปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของ พรบ.ฉบับนี้ ซึ่งไม่รวมข้าราชการทหารเอาไว้ด้วย เนืื่องจาก ทหาร ก็มี พระราชบัญญัติวินัยทหาร พ.ศ.2476 เป็นตัวกำกับบทบาทเอาไว้เช่นกัน แล้วก็ยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่ออกมารองรับอีกมากมายซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึง ณ ที่นี้ แต่จะขอมาท

อายุที่เพิ่มขึ้น

รูปภาพ
ในช่วงเวลาของการรับราชการอันยาวนานนั้น ภาพชีวิตที่มีเลือดเนื้อของผู้ใหญ่และผู้ให้กำเนิดถูกลบหายออกไปจากความเป็นจริง กลับกลายเป็นเพียงภาพที่ยังคงฝังแน่นอยู่แต่ในความทรงจำเท่านั้น เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้นของตัวเราเองเป็นเหมือนตัวผลักดันให้ชีวิตของท่านทุกคนเลื่อนสูงขึ้นไปทุกขณะจนหลุดพ้นออกไปจากวัฏจักรของสังขารตามกฎเกณฑ์ของชีวิต มันเป็นธรรมชาติของชีวิตที่ไม่มีอะไรจะต้องไปคำนึงถึงจนเกินเลยไปจากที่ควรจะเป็น การอุปการะเลี้ยงดูบุพการีนั้นมีขอบเขตจำกัดอยู่เพียงชั่วขณะหนึ่งเมื่อท่านเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะหันเหไปสู่ทิศทางอื่นแล้วก็จะหวนกลับมาสู่การเป็นผู้ถูกเลี้ยงดูในวาระสุดท้าย แต่ภาพที่ปรากฎให้เห็นในสังคมปัจจุบันนี้แปรเปลี่ยนไปจากภาพที่เราคุ้นเคย ความห่างเหินเกิดขึ้นกับสังคมตั้งแต่ระดับครอบครัวขึ้นมา กลับกลายเป็นสังคมแห่งความเห็นแก่ตัว ความมุ่งมั่นที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยเล็งเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นสำคัญ ผูกติดยึดมั่นอยู่กับลาภยศ สรรเสริญ แสวงหาทรัพย์สินเงินทองอย่างไม่หยุดยั้งในทุกวิถีทาง แล้วก็บากบั่นมุ่งมั่นสร้างตนให้โดดเด่นเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไป อันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนื

แก้ไขรูปแบบ

รูปภาพ
ช่วงเวลาที่ห่างหายไปหมดไปกับการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบของบล็อคให้หลุดพ้นไปจากความจำเจ เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบที่อิสระขึ้นตามที่ใจต้องการไม่วนเวียนอยู่กับรูปแบบที่ตายตัวตามกฎเกณฑ์ของบล็อคแต่ดั้งเดิม มันให้ความผ่อนคลายทางอารมณ์ได้ในระดับที่ใจต้องการ ไม่รู้นึกยังไงที่ไปค้นหารูปภาพเก่าๆ แล้วก็เจอรูปนี้เข้ายังมีสภาพใหม่อยู่แม้ว่าสีค่อนข้างจะแปลกไปบ้างแล้วก็ตามเลยสแกนเอามาลงไว้ดูเล่นเป็นภาพที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 ในค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี(ปัจจุบันเป็นจังหวัดสระแก้ว) คนในรูปก็คือ ชนินท์ เพชรรัตน์ ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการ สังกัด จังหวัดทหารบกปราจีนบุรี(ส่วนแยกอรัญประเทศ) ปัจจุบันหน่วยงานนี้เปลี่ยนชื่อเป็น จังหวัดทหารบกสระแก้ว ไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 อาจจะดูไม่เรียบร้อยไปซักนิดเพราะไม่ได้แต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อย แต่ก็นั่นแหละมันทำงานจนไม่มีเวลาได้พักผ่อนเอาซะเลยในช่วงนั้น ถ้าใครพอจะจำเหตุการณ์ได้คงนึกออกว่า ในปี 2520-2522 สถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชาค่อนข้างจะน่าหวาดหวั่น เนื่องจากเวียตนามได้ยกกองกำลังเข้ามาช่วยฮุนเซนโจมตีเขมรแดงของพลพตจนแตกพ่ายไม่เป็นชิ้นดีและย

ปีใหม่แล้ว

รูปภาพ
          ปีพุทธศักราช 2544 เป็นเพียงอีกปีหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเองในความเป็นจริง เพราะหลายคนไม่สามารถก้าวข้ามปี 2553 มาได้และบางคนก็ทำได้เพียงการก้าวข้ามมาได้ไม่กี่อึดใจก่อนจะปล่อยให้ชีวิตไหลไปตามกระแสของชีวิต ลมหายใจของแต่ละบุคคลย่อมมีกำหนดแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นเตรียมกายเตรียมใจไว้พร้อมแล้วหรือไม่?           วันเก่าๆ ที่ผ่านไปสร้างประวัติศาสตร์ทิ้งไว้ให้รำลึกถึงมากมาย บางเรื่องไม่มีแก่นสารหรือสาระควรค่าแก่การจดจำ ขณะที่บางเรื่องสมควรที่จะต้องนำมาเป็นบทเรียนในการประคับประคองวิถีสังคมให้เดินไปตามเส้นทางที่ถูกต้อง บางเรื่องถูกเร่งเราให้มีการนำไปปฏิบัติเพื่อตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายบางประการที่วางไว้จากคนบางคน  โดยไม่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมแม้แต่น้อย แต่เกิดประโยชน์ต่อตนและพวกพ้อง           แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนและก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าวันวาน วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ นั่นก็คือ ประชาชนยังคงเป็นเหยื่อที่น่าสงสารของผู้ปกครองตลอดกาล แม้ว่าส่วนมากจะก้าวผ่านข้อจำกัดทางการศึกษามาแล้วก็ตาม มีความรู้ความเข้าใจถึงวิถีทางทางการเมือง มีความรู้ความเข้าใจในระบอบ